น้ำตาไหลมากเกินไปเกิดจากอะไรบ้าง
เผยแพร่ครั้งแรก 4 มี. ค. 2018
อัปเดตล่าสุด 17 พ. ย. 2020
เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
โดยปกติแล้ว ดวงตาของทุกคนจะมีต่อมน้ำตาคอยหล่อเลี้ยงเพื่อไม่ให้เยื่อปุตาแห้ง รวมถึงช่วยชะล้างฝุ่นละอองที่จะเข้ามาทำให้ดวงตาของเราระคายเคือง แต่หากดวงตามีน้ำตามากเกินไป นั่นก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าดวงตาของคุณกำลังเกิดความผิดปกติบางอย่าง บางคนอาจพบว่าตนเองเกิดน้ำตาไหลออกมาระหว่างนอน หรือมีน้ำตาไหลออกมาข้างเดียว หรือน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับความรู้สึกระคายเคืองตาด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาแจกแจงดูสาเหตุที่เป็นไปได้กันว่า ทำไมน้ำตาถึงไหลออกมามากผิดปกติได้
1. ภูมิแพ้
ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วมักจะเผชิญปัญหาน้ำตาไหลออกมามากเกินไป ซึ่งสาเหตุจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีอาการแพ้อะไร แล้วมีสิ่งกระตุ้นอะไรที่ทำให้เกิดอาการแพ้จนน้ำตาไหลออกมาบ้าง เช่น
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ
เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี! บริการทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม
กด
การสัมผัสเกสรดอกไม้ การสัมผัสสะเก็ดผิวหรือขนของสัตว์เลี้ยง ตัวไรฝุ่น ซึ่งพบได้ตามพรม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนหนุน ฝุ่นควัน
ซึ่งอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับดวงตา มักจะอยู่ในรูปของดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เกิดอาการคันตามผิวหนัง และทำให้น้ำตาไหล แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้โดยใช้ยาหยอดตา หรือยาต้านฮีสทามีน (Antihistamine) แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้คุณไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการเพิ่มเติมและจ่ายยารักษาให้อาการดีขึ้นต่อไป
2.
ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย - inz-clinic
โรคเครียด
อาการนอนไม่หลับก็อาจเป็นสัญญาณของโรคเครียดได้
เนื่องจากความเครียดจะส่งผลกระทบมาถึงระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย
และส่งผลต่อมายังระบบการทำงานอื่น ๆ ในตัวของเรา
เป็นที่มาของอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย อาหารไม่ย่อย ประจำเดือนคลาดเคลื่อน
สมรรถภาพทางเพศเสื่อม เมื่อเกิดอาการแบบนี้ซ้ำ ๆ
ก็จะมีผลกระทบต่อร่างกายตั้งแต่ภูมิคุ้มกันที่จะอ่อนแอลงจนเป็นหวัดหรือท้องเสียได้ง่าย
ๆ ไปจนถึงโรคเรื้อรังต่าง ๆ อย่างโรคหัวใจและหลอดเลือดเลยทีเดียว 7.
อเมริกา
แสงแดด แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลให้หน้าแก่กว่าวัยซึ่งเรามองข้ามไม่ได้ เพราะ แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เราเรียกกันว่ารังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระภายในผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ ผิวคล้ำ และก่อให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ใครที่ไม่ชอบทากันแดด หรือมักออกที่แจ้งเป็นประจำ หากละเลยปัจจัยนี้ เรียกได้ว่าหน้าแก่กว่าวัยมาหาแน่นอน 5. ควันและมลพิษ ปัจจัยภายนอกที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัยและควรระวังไม่แพ้แสงแดดคคือควันและมลพิษ ยิ่งในปัจจุบันแล้ว ฝุ่น PM2. 5 ก็ยังมีอยู่เยอะ ควันจากท่อไอเสียที่เราเจอตามท้องถนนก็เป็นปัจจัยนึงที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัยเช่นกัน เพราะควันและมลพิษจะเข้าไปทำปฎิกิริยากับออกซินเจนภายในผิวและก่อให้เกิดเป็นสารอนุมูลอิสระ ที่จะเข้าไปทำลายโครงสร้างผิวให้เหี่ยว และดูแก่กว่าวัย ดูแลผิวรอบดวงตาอย่างไรไม่ให้หน้าแก่กว่าวัย บางปัญหาหน้าแก่กว่าวัยที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้ต้องแก้ไขด้วยการศัลยกรรมตาเท่านั้น แต่บางอย่างสามารถใช้นวัตรกรรมใหม่ๆ เช่น Ulthera, Thermage FLX เทคโนโลยียกกระชับในการช่วยฟื้นฟู และดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาได้หรือแม้กระทั่งการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ดีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการศัลยกรรม 1.
เล่นมือถือหนักช่วงก่อนนอน เรียกว่าเป็นปัญหายอดฮิตสำหรับใครหลายคน กับความเคยชินในการเล่นมือถือก่อนนอน ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม พิมพ์แชทต่างๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ดึกดื่นเข้าไปแล้ว ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ส่งผลให้พอตื่นเช้าขึ้นมาก็จะเกิดอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น วิธีแก้คือ คุณควรกำหนดเวลาในการนอนอย่างเป็นกิจลักษณะ เมื่อถึงเวลานอนไม่ควรหยิบมือถือขึ้นมาเล่น ทำจนเป็นนิสัยก็จะทำให้คุณภาพการนอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับนาฬิกาชีวิตของคุณให้เหมาะสมมากขึ้น หากใครที่ไม่ออกกำลังกายเลยก็จะรู้สึกได้ว่า ร่างกายมีความอ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย และรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า ปล่อยไว้นานๆ เข้าก็จะทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายแปรปรวนตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถเข้านอนตอนกลางคืนได้อย่างเต็มตื่น รุ่งเช้าตื่นมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดชื่นไม่ง่วงหงาวหาวนอน ก็ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะก่อนนอนหรือตอนตื่นเช้าก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายเกิดการปรับตัวได้มากยิ่งขึ้น 5. ความผิดปกติของระบบประสาท อีกหนึ่งสาเหตุที่มีความเป็นไปได้กับการที่ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงนอนตอนกลางวันอยู่ตลอดเวลา ก็คือความผิดปกติของระบบประสาท ที่เป็นตัวแปรทำให้กลไกการควบคุมร่างกายผิดปกติ โดยอาจจะเกิดมาจากการที่ครั้งหนึ่งคุณเคยได้รับอุบัติเหตุทางสมอง หรือเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน ซึ่งทางการแพทย์จะเรียกผลกระทบนี้ว่าโรคอาการง่วงมากผิดปกติ 6.
Ptosis คืออะไร แก้ตาปรือ ตาง่วงนอน ได้อย่างไร
หนังตาตก หนังตาตก คือลักษณะหนังตาหย่อนลงมาปิดชั้นตา เพราะหนังตาที่เหี่ยวย่นจะทำให้ดูหน้าแก่กว่าวัย ดูมีอายุมากขึ้น โดยปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตาสองชั้นร่วมกับตัดเก็บหนังตาส่วนเกินซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาตรงกับสาเหตุ การแก้ไขปัญหาหนังตาตกจะทำให้ดวงตากลับมาดูอ่อนเยาว์ ไม่ดูหน้าแก่กว่าวัย ตัวอย่างหนังตาตกทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย 2. ตาตก ตาปรือ ตาง่วงนอน ลักษณะของตาตก ตาปรือ ตาง่วง คือ ขอบเปลือกตาปิดลงมาด้วยทำให้เห็นตาดำเล็กลง ตาดูปรือ เหมือนคนง่วงนอน ตาง่วง และหน้าแก่กว่าวัย เมื่ออายุมากขึ้นนอกจากหนังตาตกลงมาตามความหย่อนคล้อยแล้ว บางที่ตาก็ตกปรือลงมาด้วยเหมือนกัน มักเกิดจากพฤติกรรมที่ขยี้ตาบ่อยๆ หรือเป็นภูมิแพ้ ในกรณีนี้หากทำตาสองชั้นอาจจำเป็นต้องเย็บกล้ามเนื้อตาแก้ไขอาการตาปรือ เพื่อให้ตาเปิดโตขึ้นมาเป็นปกติ แล้วจึงทำตาสองชั้นและตัดเก็บหนังตาส่วนเกินร่วมด้วย หลังผ่าตัดแล้วจะทำให้เห็นดวงตามากขึน ดวงตาดูสดใสกว่าเดิม ไม่หน้าแก่กว่าวัย ตัวอย่างตาปรือ ตาง่วงนอน ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย 3. ชั้นตาซ้อนพับกันหลายชั้น ลักษณะของชั้นตาซ้อนพับกันหลายชั้นบางครั้งอาจเกิดจากอาการ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อไม่มีแรงในการพับชั้นตา จึงทำให้เกิดการซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ตาดูปรือ ตาดูง่วงนอน ทำให้ดวงตาดูลืมไม่เต็มที่ ไม่สดใส และลักษณะชั้นตาไม่ชัดเจน ดูเหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงส่งผลให้ดูหน้าแก่กว่าวัย โดยวิธีการแก้ปัญหานี้ ในการผ่าตัดจะผ่าตัดลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อตา เพื่อปรับระดับการยกขึ้นของเปลือกตา ร่วมกับการกรีดยาวเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินออก ทำให้ชั้นตาที่ซ้อนพับกันหายไปหมดปัญหาหน้าแก่กว่าวัย 4.
- เคส redmi 4a buy
- เกม uncharted 4
- สาหร่าย ฝอย แม็คโคร
- ทำตาสองชั้นกับหมอกัน ปรับรูปตาด้วยเทคนิคเฉพาะ ตาสวย คมชัด
- ง่วงนอนบ่อย ง่วงนอนตลอดเวลา ส่ออาการเจ็บป่วยได้หลายโรค
- คณะก้าวหน้าเดินสายอีสานรณรงค์แก้รธน. ปลดล็อกท้องถิ่น ได้แล้วกว่า 10,000 ชื่อ สยามรัฐ
- Wisdom tooth () แปลว่าอะไร? ดูความหมาย ภาพประกอบ ตัวอย่างประโยค | ENGDICT.COM
- แจก word 2013
- ตา ดู ง่วง ตลอด เวลา am pm
- ราคา ไอ พอ ด
- หล่อรูปเหมือนบูรพาจารย์ | สุนทยา คำมุงคุณ
ง่วงนอนมากผิดปกติระหว่างวัน เกิดจากอะไร - NK Sleep Center
ตื่นนอนไม่เป็นเวลา การตื่นนอนไม่เป็นเวลา ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนในช่วงกลางวันได้ โดยหลายคนมีความเชื่อว่าหากเราตื่นสายเท่าไหร่ก็จะทำให้วันนั้นทั้งวันไม่เกิดอาการง่วงตามมาอีก แต่จริงๆ แล้วถือเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกนัก เพราะยิ่งคุณนอนตื่นสายเกินเวลาที่เหมาะสมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายโหยหาการนอนมากขึ้นเท่านั้น จึงไม่แปลกที่คนตื่นสายส่วนใหญ่ มาถึงที่โรงเรียนหรือออฟฟิศแล้วก็เกิดอาการง่วงตลอดทั้งวัน 7. ฤทธิ์ของยาบางชนิด ยาบางชนิดเมื่อรับประทานไปแล้ว เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก มักจะมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วงนอน ดังนั้นเมื่อรับประทานยาดัง กล่าวในช่วงกลางวัน ร่างกายก็ควรได้รับการพักผ่อนตามไปด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ยากลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ขับรถควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน หรืออาจจะขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อปรับตัวยาใหม่ให้มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอนน้อยลง 8.
พอเปิดหนังสือเรียนทีไรก็ง่วงตลอดเลย จะสอบแล้วแท้ๆ อุตส่าห์พยายามอ่านหนังสือ แต่หนังตาก็ไม่เป็นใจเอาเสียเลย เคยประสบปัญหานี้กันไหมคะ? วันนี้ Clearnote มีวิธีดีๆ ในการรับมือกับความง่วงมาแบ่งปันกันค่ะ ไปดูกันเลยย
1. งีบสักนิดก่อนเรียน
อาการง่วงระหว่างเรียน ส่วนใหญ่แล้วมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอ เผลอดูซีรี่ย์นานไปนิด รู้ตัวอีกทีก็ดึกมากเสียแล้ว ในกรณีแบบนี้ การงีบเอาแรงสักนิดจะดีกว่าค่ะ การงีบจะทำให้สมองเราปลอดโปร่งขึ้น การเรียนก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ แต่อย่างไรตาม อยากให้ระวังเรื่องเวลากันไว้สักหน่อยนะคะ เพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ หากงีบนานเกินไปอาจจะง่วงกว่าเดิมเอาได้นะคะ
2. ลองเปลี่ยนเนื้อหาที่เรียนดู
หากอ่านวิชาเดิมซ้ำไปมา สมองจะอ่อนล้าและหัวไม่แล่นเป็นที่แน่นอน ทำให้เกิดอาการง่วงหงาวหาวนอนตามมา ลองเปลี่ยนเนื้อหาที่เรียนเช่น อ่านเนื้อหาที่เน้นความจำ (อังกฤษ, ไทย, สังคม เป็นต้น) จากนั้นผลัดมาทบทวนวิชาคำนวณ (คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ เป็นต้น) ช่วยให้ง่วงน้อยลงได้ค่ะ
3. ล้างหน้า แปรงฟันเพิ่มความสดชื่น
ถ้าเริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วว ตาจะปิดแล้ว น้ำเย็นสดชื่อนอาจช่วยได้ค่ะ ลองลุกไปล้างหน้าดู ช่วยให้รู้สึกสดชื่น และหายง่วงขึ้นได้ค่ะ หรืออาจจะแปรงฟันด้วยหากมีเวลา เป็นวิธีที่ให้ผลดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
4.
กินอาหารเสริม การกินอาหารเสริมเช่นวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี สารสกัดจากองุ่น ก็ช่วยให้การแก้ปัญหาหน้าแก่กว่าวัยได้ เป็นตัวช่วยที่เสริมวิตามินที่เราขาดหายไปแต่ทั้งนี้ก็ควรศึกษา และดวิตามินที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรอง น่าเชื่อถือ และศึกษาวิธีการกินนอย่างละเอียด และวิตามินเป็นแค่ตัวช่วยเสริมเท่านั้น ยังไม่ควรละเลยต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าแก่กว่าวัย
โรคตาแดง
หากดวงตาของคุณเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือสีแดงขึ้นมา รวมทั้งมีอาการน้ำตาไหลออกมามากกว่าปกติ นั่นอาจเพราะคุณกำลังจะเป็นโรคตาแดง ( Conjunctivitis) ซึ่งเป็นการอักเสบประเภทหนึ่งของดวงตา นอกจากนี้ คุณอาจมีอาการมองเห็นภาพไม่ชัด มีเมือกในดวงตา และด้านในดวงตามีสีแดง ส่วนการรักษานั้น จะขึ้นอยู่กับว่าตัวการของโรคเกิดจากอะไรกันแน่ เช่น เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือโรคภูมิแพ้ ส่วนวิธีป้องกันที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ ไม่ขยี้ตาและอย่าเอามือสัมผัสตาบ่อยๆ หมั่นล้างมืออยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าร่วมกับผู้อื่น
3. ท่อน้ำตาอุดตัน
ภาวะท่อน้ำตาอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่ทารกไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อท่อน้ำตาเกิดการอุดตัน น้ำตาที่อยู่ภายในก็จะไม่สามารถระบายออกไปยังถุงน้ำตาข้างจมูกได้ จนทำให้ดวงตาของคุณชุ่มไปด้วยน้ำตาจนมีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลาและเกิดความระคายเคืองขึ้น รวมถึงเกิดการติดเชื้อที่บริเวณตาด้วย นอกจากนี้ คุณอาจพบว่ามีเมือกในดวงตา รู้สึกมองเห็นภาพไม่ชัด และมีเลือดปนออกมากับน้ำตา ภาวะนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่คุณจะต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและตรวจการระบายน้ำตาว่ามีความผิดปกติอย่างไร
4.